เมนู

อรรถกถาทุกนิทเทส


อธิบายญาณวัตถุหมวด 2


คำว่า จตูสุ ภูมีสุ กุสเล (แปลว่า ในกุศลธรรมในภูมิ 4) ได้แก่
ปัญญาเป็นกุศลอันเป็นไปในภูมิ 4 ของพระเสกขะ และปุถุชนทั้งหลาย พึง
ทราบวินิจฉัยในที่นี้ว่า ปัญญาใด ย่อมยังประโยชน์กล่าวคือวิบากอันนับเนื่อง
แล้วด้วยภูมิของตน. ให้เกิดขึ้น ให้ผลิตผล คือให้เป็นไปทั่วในประโยชน์ 5*
ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในปฏิสัมภิทาวิภังค์ เพราะเหตุนั้น ปัญญานั้น
จึงชื่อว่า อัตถชาปิกา. คำว่า อรหโต อภิญฺญํ อุปฺปาเทนฺตสฺส สมา-
ปตฺตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส กิริยาพฺยากตา
(แปลว่า ปัญญาที่เป็นกิริยาอัพยากตะ)
ของพระอรหันต์ผู้กำลังยังอภิญญาให้เกิดขึ้น ผู้กำลังยังสมาบัติให้เกิดขึ้น) ได้แก่
ปัญญาอันเป็นกิริยาในกามาวจร ในเวลาทำบริกรรมแห่งอภิญญาและสมาบัติ.
จริงอยู่ ปัญญานั้น ย่อมยังประโยชน์กล่าวคือกิริยาอันต่างด้วยอภิญญาและ
สมาบัติให้เกิด ให้ผลิตผล ให้เป็นไปทั่ว เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงตรัสเรียกว่า อัตถชาปิกปัญญา.

นัยแห่งอรรถกถาอันเป็นบาลีมุตตกะ นัยหนึ่ง


ก็ปัญญาแม้ใด เป็นกามาวจรกิริยาซึ่งเกิดขึ้นก่อน ย่อมเป็นปัจจัยแก่
กามาวจรกิริยาที่เกิดภายหลังด้วยอำนาจอนันตรปัจจัย. ปัญญาแม้นั้น ชื่อว่า
อัตถชาปิกปัญญา เพราะย่อมยังประโยชน์กล่าวคือกิริยานั้นให้เกิดขึ้น. แม้

*. คือ 1. สัจจวาระ 2. เหตุวาระ 3. ธรรมวาระ 4. ปัจจยาการวาระ 5. ปริยัตติ-
ธรรมวาระ

ปัญญาในรูปาวจรทั้งหลาย ก็นัยนี้. พึงทราบในนิทเทสแห่งบทที่ 2 มีคำว่า
จตูสุ ภูมีสุ วิปาเก (แปลว่า ในวิบากธรรมในภูมิ 4) ได้แก่ ปัญญาใน
กามาวจรวิบาก ชื่อว่า ชาปิตัตถา เพราะยังประโยชน์ในกามาวจรวิบากให้
เกิดแล้วดำรงอยู่ ด้วยสามารถแห่งปัจจัยมีสหชาตปัจจัยเป็นต้น. แม้ปัญญาใน
วิบากมีรูปาวจรปัญญา เป็นต้น ก็นัยนี้เหมือนกัน.
อีกอย่างหนึ่ง ปัญญานี้ แม้ทั้งหมด ชื่อว่า ชาปิตัตถา เพราะให้
เกิด ให้ผลิตผลให้เป็นไปทั่วด้วยเหตุทั้งหลายของตน ๆ และแม้ตัวเองก็เป็น
ประโยชน์ ดังนี้บ้าง. แม้ในปัญญาอันเป็นกิริยาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
ปัญญาของพระอรหันต์เมื่อขณะที่อภิญญาเกิดแล้ว เมื่อขณะที่สมาบัติเกิดแล้ว
ดังนี้ ก็นัยนี้แหละ.

นัยแห่งอรรถกถาอันเป็นบาลีมุตตกะ อีกนัยหนึ่ง


ก็แม้ปัญญาในกิริยาอันเป็นกามาวจร ชื่อว่า ชาปิตัตถา เพราะยัง
ประโยชน์กล่าวคือกามาวจรกิริยาให้เกิดแล้ว ดำรงอยู่ด้วยอำนาจแห่งสหชาต-
ปัจจัยเป็นต้น. แม้ในปัญญาอันเป็นกิริยาในรูปาวจรและอรูปาวจร ก็นัยนี้
แหละ.
อีกอย่างหนึ่ง ปัญญานี้แม้ทั้งหมด ชื่อว่า ชาปิตัตถา เพราะให้เกิด
ให้ผลิตผล ให้เป็นไปทั่ว ด้วยเหตุทั้งหลายของตน ๆ และแม้ตัวเองก็เป็น
ประโยชน์ดังนี้บ้าง. คำที่เหลือทั้งหมดในที่นี้ ปรากฏชัดแล้วทั้งนั้น เพราะ
มีนัยดังที่กล่าวแล้วในอรรถกถาแห่งธัมมสังคหะ ฉะนี้แล.
ญาณวัตถุหมวด 2 จบ